สายรุ้งพันธมิตร

สายรุ้งพันธมิตรเป็นเครื่องมือที่ใช้อ่านกลุ่มเป้าหมาย ประเมินสมรภูมิ รวมทั้งใช้นิยามตัวเอง เพราะการนิยามตัวเองว่าเราคือใครส่งผลอย่างสำคัญต่อการเคลื่อนไหว

สายรุ้งพันธมิตรจำแนกคนที่เกี่ยวข้องออกเป็น 7 กลุ่ม แต่ละกลุ่มเราจะทำงานโดยใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกัน

กลุ่มเป้าหมาย

ความหมาย

กลยุทธ์ที่ใช้

เรา

(Leading Activists)

นิยามตัวเราหรือกลุ่มของเราในการรณรงค์ครั้งนี้

ให้กำลังใจ เกื้อกูลดูแล เยียวยา ให้เสียงสะท้อน

คู่กรณี

(Leading Opponents)

คู่กรณีไม่ใช่ศัตรู เพียงอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเราในกรณีนั้นๆ คู่กรณีคือคนมีอำนาจตัดสินใจเรื่องนี้โดยตรง

ไม่มุ่งโจมตีตัวบุคคลแต่มุ่งโจมตีตัวปัญหา เปิดโอกาสให้เขาเปลี่ยนใจได้ แฉเปิดโปงความต้องการที่แท้จริงของเขา

กลุ่มผู้สนับสนุนเรา

(Active Allies)
หรือ พันธมิตรของเรา

คนที่คอยช่วยเหลือเรา พันธมิตรที่ตื่นตัวจะต้องมีการกระทำบางอย่างที่ช่วยสนับสนุนด้วย

เสริมพลังให้พวกเขาทำตามบทบาทของตนเอง ทำงานร่วม รักษาการติดต่อและเพิ่มบทบาทให้เขาเห็นความสำคัญของตนและเห็นว่าเขามีประโยชน์ต่อเรา

กลุ่มผู้เห็นด้วยกับเรา

(Passive Allies)

คนที่เห็นด้วยกับประเด็นรณรงค์ของเรา แต่ยังไม่ลงมือทำอะไรในประเด็นนี้

สร้างการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น เปิดช่องให้เขา เสนอช่องทางสนับสนุน เสริมพลัง ให้พวกเขาเข้าใจกระบวนการทำงานของเรามากขึ้น

กลุ่มผู้สนับสนุนคู่กรณี

(Active Opponents)
หรือพันธมิตรของคู่กรณี

ผู้ได้รับประโยชน์จากการกระทำหรือไม่กระทำของคู่กรณี มีปฏิบัติการ/สนับสนุนทรัพยากรแก่คู่กรณี

  1. ให้ดูความกลัวหรือความต้องการเขา เราต้องรับรู้และเข้าใจความต้องการและสิ่งที่เขากลัว
  2. ทำให้งง หรือสับสนกับบทบาทตัวเองว่าฉันมาช่วยคู่กรณีทำไม

กลุ่มผู้เห็นด้วยกับคู่กรณี

(Passive Opponents)

คนที่เห็นด้วยกับคู่กรณีแต่ไม่ได้ออกมาทำอะไร

  1. อย่าทำอะไรที่กระตุ้นให้คนกลุ่มนี้ทำอะไร เพราะถ้าเขาทำหรือมีการแอ๊กชั่นเมื่อไรเขาจะกลายไปเป็นพันธมิตรของฝ่ายคู่กรณีทันที
  2. เปิดโอกาสให้เขาเปลี่ยนใจ หรือเปลี่ยนจุดยืนได้ด้วย

กลุ่มรอตัดสินใจ

(Oblivious Neutrals)

ไม่ใช่คนทั่วไป พวกเขาเป็นกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับประเด็นรณรงค์แต่ยังไม่ตัดสินใจที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย พร้อมรับข้อมูลของแต่ละฝ่าย

ให้ข้อมูลเขา ต้องชนะใจเขาให้ได้ เป็นกลุ่มที่เราต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้

วิธีคิดสายรุ้งพันธมิตร

กำหนดให้ได้ว่าเราคือใคร

การกำหนดตัวเราสำคัญมาก เรานิยามตัวเองว่าอะไรสำคัญมาก ยกตัวอย่างพี่น้องสมัชชาคนจนบอกว่าพวกเราคือผู้ได้รับผลกระทบจากการพัฒนา เราคือคนจนที่ไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้เพราะรัฐไม่ดูแล เราคือผู้ถูกกระทำจากระบบทุนนิยม ถ้าเรากำหนดว่าตัวเองคือเหยื่อของการพัฒนา ผู้สนับสนุนเราก็จะเป็นเหล่านักบุญที่มาด้วยความสงสาร แต่เมื่อสมัชชาคนจนเปลี่ยนมานิยามตัวเองว่าเราคือผู้ถูกกดขี่ที่ลุกขึ้นมาสู้กับการพัฒนาที่ไม่เป็นธรรมที่กดคนให้จนลง เมื่อนิยามอย่างนี้ก็ได้ผู้สนับสนุนที่เป็นคนที่มีความฝันเดียวกันร่วมต่อสู้ ไม่ใช่ทำบุญ นี่คือความสำคัญของการกำหนดนิยามว่าเราคือใคร

ยุทธศาสตร์ของสายรุ้งพันธมิตรคือขยับทีละช่อง

ยุทธศาสตร์ของสายรุ้ง ไม่ใช่ทำให้ผู้สนับสนุนเขามาเป็นผู้สนับสนุนเรา หรือผู้เห็นเห็นด้วยกับเขามาเห็นด้วยกับเรา หรือผู้เห็นด้วยกับเขามาสนับสนุนเรา ไม่ใช่ แต่เราจะค่อยๆ ขยับทีละช่อง จากผู้สนับสนุนคู่กรณีให้ถอนการสนับสนุน แปรสภาพมาเป็นผู้เห็นด้วยเฉยๆ จากผู้เห็นด้วยมาเป็นยังไม่ตัดสินใจ จากคนที่ยังไม่ตัดสินใจให้มาเห็นด้วยกับเรา นี่คือยุทธศาสตร์กระบวนการที่เราทำ ไม่อย่างนั้นกว่าเราจะทำให้ผู้สนับสนุนเขามาเห็นด้วยกับเรามันไม่มีทางอยู่แล้วเพราะการที่เขาไปสนับสนุนคู่กรณีไม่ใช่แค่เรื่องความคิดมันเป็นเรื่องผลประโยชน์ เป็นเรื่องเครือข่ายที่เขาเชื่อมโยงกันมานาน ดังนั้นสิ่งที่เราทำไม่ใช่เปลี่ยนเขาให้มาอยู่ฝั่งเรา แต่เป็นการถอนการสนับสนุนหรือถอนเสาค้ำสามเหลี่ยม ไม่ได้แปลว่าเอาเสาค้ำเขามาค้ำฝั่งเรามันคือถอนไม่ให้สนับสนุนเขา